“คิดถึงคุณพ่อ” “ป๋าวุธ ธีรพงษ์” (ภาคที่ 21)

คุณพ่อเคยสอนเอาไว้ว่า การแบไต๋ เปิดเผยจุดอ่อนของเราให้กับคนอื่นฟังนั้น ใช่ว่า จะไม่มีดีเลย เพราะอย่างน้อยๆ ทำให้เรารู้ว่า เค้าคิดอย่างใดกับเรา และเค้าจะใช้จุดอ่อนตรงนี้มาทำกับเราอย่างใดบ้าง โดยเราอาจจะไม่มีความคิดเป็นลบในเบื้องต้น แต่เมื่อเราได้นำความลับที่เราไม่ควรบอกถึงจุดอ่อนของเราไปขอร้องเค้าแล้ว ถ้าเค้าทำให้เราก็ดีไป แต่ถ้าเค้าไม่ทำให้เรา แถมยังนำจุดอ่อนของเราที่เราเล่าให้ฟังมาใช้ทำลายเราอีกนั้น

ถ้าจะมองว่า ไม่ดี มันก็ไม่ดี แต่ถ้าจะมองว่าดี ก็คือ ดี เพราะเราจะได้เรียนรู้กับปัญหาที่ตามมา และเราจะมีความเข้มแข็ง และแข็งแรงในอนาคต หลังจากเราได้รับการฝึกฝนความอ่อนแอที่เราได้รับในแต่ละวัน โดยข้อบกพร่องและจุดอ่อนเหล่านี้ ถ้าเราสามารถปรับตัว ชิน และอยู่กับมันได้ เราจะเริ่มแข็งแกร่ง และแข็งแรงขึ้นในอนาคต และในที่สุด “เราจะสามารถฝ่าฟันกับปัญหา และอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไปได้”

“เราจะเริ่มเข้มแข็ง และเราจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยทำให้เราสามารถก้าวผ่านไปได้ในที่สุด”

ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ “คุณพ่อ” กล่าว แต่เราต้องไม่ท้อ (ร้องไห้ได้แต่อย่าบ่อย) และเราต้องนำปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มาวิเคราะห์ ประกอบกับการเพิ่มสติ และการนำจุดอ่อนมาปรับใช้ให้ได้กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ นั่นเป็นบทเรียนชีวิตที่คุณพ่อได้ช่วยถ่ายทอดให้เราฟังจากประสบการณ์ของคุณพ่อเอง และคุณพ่อได้เคยพบเจอ และเคยประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มาบ้างแล้วเช่นกันในช่วงก่อนหน้า

ท่านจะสอนเสมอว่า “เราต้องค่อยๆ ปรับตัว และพยายามต่อสู้กับปัญหา และอุปสรรคในครั้งต่อๆ ไปให้ได้” บทเรียนนี้ เป็นบทเรียนที่ “เราไม่เคยลืมในคำสอนของคุณพ่อเลยครับผม”

คุณพ่อคุณแม่จะคอยยืนเคียงข้างเรา และคอยช่วยเหลือเราตลอดเวลา แม้ว่าในบางครั้งเราจะเจ็บปวด และบอบช้ำ แต่ท่านทั้ง 2 ก็ไม่เคยทิ้งเราไปแม้แต่ครั้งเดียว

คุณพ่อสอน และเน้นย้ำเสมอว่า เราต้องปรับตัวให้ได้ เราต้องอดทน เมื่อเราพลาดไปแล้ว เราก็ต้องอดทน (โทษตัวเองบ้างแต่อย่าบ่อย) และต้องพยายามต่อสู้ และก้าวผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไปให้ได้ แม้ว่าเราจะต้องเจ็บปวด แต่มันก็สอนให้เรารู้ว่า “เราไม่ควรใจดีกับคนใจร้าย”

และทฤษฎีนี้ถือได้ว่าเป็นข้อความที่คอยเตือนใจคุณพ่อในช่วงที่ผ่านมา และคุณพ่อได้ช่วยนำมาถ่ายทอดให้เราฟังเช่นกัน โดยท่านย้ำเสมอว่า “เราต้องผ่านพ้นเหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้ไปให้ได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานหน่อย และในบางครั้งกว่าเราจะผ่านพ้นปัญหาเหล่านี้ไปได้อาจจะต้องบอบช้ำทางจิตใจเป็นอย่างยิ่ง แต่มันก็เป็นบทเรียนในชีวิตที่เราได้พบเจอแล้ว และเราต้องผ่านมันไปให้ได้ “เชื่ออาป๊า”

คุณพ่อคุณแม่ครับ ผมอยากจะบอกว่าปัญหา อุปสรรค และจุดอ่อนที่พวกเราเคยเจอกันมานั้น มันเป็นความทุกข์แต่มันก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่เราพ่อแม่ลูกได้ร่วมกันเผชิญหน้า และช่วยกันแก้ไขเสมอมานะครับผม

(บันทึกความทรงจำเมื่อวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2563)