แสนเศร้าใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะในวันเผาศพ (งานฌาปนกิจศพ) คุณตานั้น ทุกช่วงเวลาล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยของความโศกเศร้าอย่างยิ่ง ทุกวินาทีนั้นเต็มไปด้วยการพลัดพรากจากกันอย่างถาวร นับเป็นช่วงเวลาที่สุดเศร้า และไม่อยากให้ถึงเวลานั้นจริงๆ

ยิ่งเสียงกริ่งดังขึ้นยิ่งบีบหัวใจเป็นที่สุด จะว่าไปแล้ว ทำไมเสียงกริ่งในวันนั้นช่างดังแบบน่าใจหายอย่างนี้   

เราไม่คิดว่าวันเวลาเช่นนี้จะมาถึงเร็วขนาดนั้น โดยทุกช่วงของเวลานั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความเศร้าโศกเสียใจ

เราไม่อยากให้ถึงเวลาเผาศพเลยจริงๆ

เรากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ ขนาดฝืนแล้วฝืนอีกยังกลั้นไม่อยู่จริงๆ สองแก้มเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความคิดถึงคุณตา

ภาพแห่งความทรงจำระหว่างผมกับคุณตานั้นวนเวียนให้เห็นอยู่ในความรู้สึกตลอดเวลา (ในช่วงเวลานั้น) มันเป็นภาพเดิมๆ ที่ฉายให้เห็นวนไปเวียนมาอยู่ในความทรงจำที่ทำให้เรามีความสุข และมันเป็นภาพที่ช่างแตกต่างจากภาพแห่งความเป็นจริง (ในตอนนั้น) อย่างมากที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  

ครั้นมาถึงตอนนี้ทุกคนทำอะไรแทบจะไม่ถูกแล้ว ยิ่งเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง (เผาจริง) ครั้งนี้เป็นครั้งที่เราอั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ น้ำตายิ่งไหลนองออกมามากกว่าเดิมอีก ห้วงเวลานี้ยิ่งบีบคั้นหัวใจพวกเรามากยิ่งขึ้นไปอีก

เรานึกในใจว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม สุดท้ายแล้วมันเป็นเรื่องจริง ครั้งนี้มีการเผาจริงๆ แล้วนะ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ เราจะต้องจากกับคุณตาจริงๆ แล้วนะ เปลวไฟเริ่มปะทุขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย

โอ้ย ทำไมถึงเศร้าใจอย่างนี้ คุณตาท่านจากพวกเราไปแล้วจริงๆ ยิ่งนึกถึงยิ่งเศร้า ร้องไห้หนักมาก จิตใจหดหู่แบบบอกไม่ถูกเลยจริงๆ

ถามว่า มาถึงตอนนี้แล้ว ยังคิดถึงคุณตาหรือไม่นั้น ยอมรับว่า ยังคิดถึงคุณตาอยู่ครับ เพราะท่านเป็นฮีโร่ในใจผมเสมอมา ท่านใจดีที่สุด ท่านเป็นผู้ให้ และให้จากใจท่านจริงๆ นึกย้อนถึงวันเวลาเก่าๆ แล้วช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่เราได้รับจากคุณตา คุณตาท่านให้ความรัก ความเมตตา และความเอ็นดูกับผมเสมอมา

ความรู้สึกเช่นนี้ยากนักที่จะลืมได้ในเร็ววัน และอาจจะลืมไม่ได้เลยจริงๆ มันเป็นความผูกพันทางสายเลือดที่ตัดออกจากกันไม่ได้เลยจริงๆ

ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ได้รับความรักและความเมตตาจากคุณตาส่งต่อเป็นสายใยที่ทำให้เราเป็นเราในวันนี้ เราได้เห็นร่องรอยของการใช้ชีวิตที่คุณตาได้ถ่ายทอดให้เราเห็นในแต่ละวัน และซึมซับมาจนถึงทุกวันนี้

ทุกห้วงเวลานั้นยังคงแทรกซึมอยู่ในความทรงจำของเราไม่มีวันลืม

กาลเวลาไม่สามารถทำลายความรักและความผูกพันระหว่างเรากับคุณตาได้เลยจริงๆ แม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ความรักและความผูกพันยังคงอยู่และยิ่งทวีความคิดถึงคุณตาเพิ่มขึ้น

ในงานศพและงานเผาศพของคุณตานั้น ผมได้เห็นและสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันของลูกหลาน เครือญาติ คนรู้จัก เพื่อนๆ ของคุณตา และเครือญาติของเพื่อนๆ ของคุณตาที่มีต่อคุณตา เห็นแล้วรู้สึกซึ้งใจเป็นที่สุด พร้อมด้วยการทยอยเดินทางมาร่วมงานศพของคุณตา และมาส่งคุณตาในวันเผาศพเป็นครั้งสุดท้าย

นับเป็นภาพบรรยากาศที่สุดแสนจะประทับใจ   บรรยากาศแบบนี้ทำให้เรารู้สึกปลื้มใจแม้ว่าในส่วนลึกของหัวใจนั้นกำลังโศกเศร้าอยู่ก็ตาม ภาพเหล่านี้บ่งบอกได้ถึงความรักและความผูกพันที่ทุกๆ ท่านมีและมอบให้กับคุณตาของผมเป็นครั้งสุดท้าย มันช่างเป็นภาพที่สุดแสนจะประทับใจจริงๆ

เห็นแล้วรู้สึกปลื้มใจเป็นที่สุด ผมต้องกราบขอบพระคุณลูกหลาน เครือญาติ คนรู้จัก เพื่อนๆ ของคุณตา และเครือญาติของเพื่อนๆ ของคุณตา ทุกๆ ท่านเป็นที่สุดเลยนะครับผม